PRIVACY POLICY

นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือ "นโยบาย" เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ค่านิยาม

ภายในนโยบายฉบับนี้

(ก) "เว็บไซต์" หมายความว่า เว็บไซต์ ชื่อว่า CABAL: ULTIMATE COMBO และมีที่อยู่เว็บไซต์ที่ www.combocabal.com

(ข) "ผู้ควบคุมข้อมูล" หมายความว่า ผู้ให้บริการหรือเจ้าของเว็บไซต์ ตามนโยบายฉบับนี้ อันได้แก่ บริษัท ซีบีซอฟท์ จำกัด ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 0125566036499 สํานักงานตั้งอยู่ที่ 94/402 หมู่ที่ 4 ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ติดต่อ [email protected]

(ค) "ผู้ประมวลผลข้อมูล" หมายความว่า บุคคลภายนอกซึ่งประมวลข้อมูลเพื่อประโยชน์หรือในนามของผู้ควบคุม ข้อมูล

(ง) "ข้อมูล" หมายความว่า สิ่งที่สื่อความหมายให้รู้เรื่องราวข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือสิ่งใดๆ ไม่ว่าการสื่อความหมาย นั้นจะทําได้โดยสภาพของสิ่งนั้นเองหรือโดยผ่านวิธีการใดๆ และไม่ว่าจะได้จัดทําไว้ในรูปของเอกสาร แฟ้ม รายงาน หนังสือ แผนผัง แผนที่ ภาพวาด ภาพถ่าย ฟิล์ม การบันทึกภาพหรือเสียง การบันทึกโดยเครื่อง คอมพิวเตอร์ โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นใดที่ทําให้สิ่งที่บันทึกไว้ปรากฏได้

(จ) "ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาใดๆ ซึ่งทําให้สามารถระบุตัวของบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

(ฉ) "ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว" หรือ "Sensitive Data" หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานที่ เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ พันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลภาพจ่าลองใบหน้า ม่านตา หรือลาย นิ้วมือ ข้อมูลสหภาพแรงงานหรือข้อมูลอื่นใดซึ่งคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลได้ประกาศให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

(ช) “ผู้ใช้งาน" หมายความว่า ท่าน ผู้เยี่ยมชม ผู้ใช้ ผู้เป็นสมาชิกของเว็บไซต์ ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตาม นโยบายฉบับนี้

(ซ) “เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า เจ้าหน้าที่ที่ผู้ควบคุมข้อมูลจัดให้มีเพื่อดําเนินการตาม กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 2 ความยินยอมของผู้ใช้งาน

เมื่อผู้ใช้เข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ ถือว่าผู้ใช้ยินยอมให้เว็บไซต์เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ ดังต่อไปนี้

(ก) วัตถุประสงค์แห่งการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ใช้รับทราบ ยินยอม และยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้เท่านั้น
การประชาสัมพันธ์และการตลาดในช่องทางออนไลน์ ออฟไลน์ ข้อความทางโทรศัทพ์เคลื่อนที่ รวมไปถึงเทเลเซลล์

(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมและใช้ ผู้ใช้งานรับทราบและยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ ดังต่อไปนี้เท่านั้น
ชื่อ นามสกุล เพศ ที่อยู่ ประเทศ เบอร์โทร อีเมล วันเดือนปีเกิด

(ค) ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้ใช้รับทราบและยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ เป็นระยะเวลา 5 (ห้า) ปี นับตั้งแต่วันที่ผู้ใช้ยินยอมให้เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้

ข้อ 3 การเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ใช้งานเว็บไซต์กับผู้ให้บริการบุคคลที่สาม

ผู้ผู้ใช้รับทราบและยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ใช้กับผู้ให้บริการบุคคลที่สาม โดยผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบล่วงหน้าก่อนที่จะมีการเชื่อมโยงหรือแบ่งปันข้อมูล ผู้ใช้สามารถแสดงเจตจำนงในการอนุญาตให้มีการเชื่อมโยงหรือแบ่งปันข้อมูลได้หลายวิธี เช่น การกดยอมรับ อนุญาต เชื่อมโยง แบ่งปัน หรือการกระทำอื่นใดที่แสดงถึงความยินยอมโดยชัดแจ้ง

ข้อ 4 การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของผู้ใช้งาน

ผู้ใช้รับทราบและยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลใช้ระบบและ/หรือเทคโนโลยีดังต่อไปนี้ในการติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของผู้ใช้:

เทคโนโลยี Cookies

การใช้งาน Pixel Tags

Google Analytics Tag

โดยใช้ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาการให้บริการและนำเสนอสินค้าที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้เท่านั้น

ข้อ 5 การถอนความยินยอมของผู้ใช้งาน

ผู้ใช้มีสิทธิถอนความยินยอมที่ให้ไว้กับผู้ควบคุมข้อมูลตามนโยบายฉบับนี้ได้ทุกเมื่อ โดยทำดังนี้: เลือก "ไม่ยินยอม" ในเมนูการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวภายในเว็บไซต์ ผลของการถอนความยินยอม: ผู้ใช้จะไม่สามารถใช้บริการพิเศษภายในเว็บไซต์ได้ เหลือเพียงสิทธิ์ในการเยี่ยมชมเท่านั้น และผู้ใช้ยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นจากการถอนความยินยอม

ข้อ 6 บัญชีผู้ใช้

ในการใช้งานเว็บไซต์ ผู้ควบคุมข้อมูลอาจจัดให้มีบัญชีผู้ใช้สำหรับผู้ใช้แต่ละคน ผู้ควบคุมข้อมูลมีสิทธิ์แต่เพียง ผู้เดียวในการอนุมัติเปิดบัญชี กำหนดประเภทบัญชี กำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล สิทธิ์การใช้งานเว็บไซต์ ค่าใช้จ่าย หน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้ใช้
ผู้ใช้ตกลงจะเก็บรักษาชื่อบัญชี รหัสผ่าน และข้อมูลใดๆ ของตนไว้เป็นความลับ และจะไม่ยินยอมให้บุคคลอื่น ใช้งานบัญชีของตน ผู้ใช้ต้องใช้ความพยายามอย่างที่สุดในการป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้งานบัญชี
หากมีการใช้บัญชีผู้ใช้โดยบุคคลอื่น ผู้ใช้ตกลงและรับรองว่าการใช้งานดังกล่าวได้กระทำในฐานะตัวแทน ของผู้ใช้ และมีผลผูกพันเสมือนหนึ่งผู้ใช้เป็นผู้กระทำการเอง

ข้อ 7 สิทธิของผู้ใช้งาน

ผู้ใช้เข้าใจและยินยอมให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายนี้ ผู้ใช้ทราบถึงสิทธิของตนในฐานะเจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง

(ก) ผู้ใช้สามารถถอนความยินยอมที่ให้ไว้ตามนโยบายนี้ได้ทุกเมื่อ โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรแก่ผู้ควบคุมข้อมูลตามวิธีและช่องทางที่กำหนดในนโยบายนี้

(ข) ผู้ใช้มีสิทธิ์เข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตนหรือที่เกี่ยวข้องกับตน ซึ่งผู้ควบคุมข้อมูลได้เก็บรวบรวมไว้ตามนโยบายนี้

(ค) ผู้ใช้มีสิทธิ์ได้รับการเปิดเผยจากผู้ควบคุมข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของตน หรือที่เกี่ยวข้องกับตน ซึ่งตนไม่ได้ให้ความยินยอม หากมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น

(ง) ผู้ใช้สามารถให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของตนหรือที่เกี่ยวข้องกับตนไปยังผู้ควบคุม ข้อมูลรายอื่นรวมถึงขอรับข้อมูลที่ได้ส่งหรือโอนดังกล่าวโดยตรงจากผู้ควบคุมข้อมูลที่ส่งหรือโอนข้อมูลนั้นด้วย

(จ) ผู้ใช้สามารถคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตน หรือที่เกี่ยวข้องกับตนได้ ในกรณีดังต่อไปนี้

(1) ผู้ควบคุมข้อมูลจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ เมื่อมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูล หรือของบุคคลอื่น ซึ่งผู้ใช้สามารถพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิ์ดีกว่าผู้ควบคุมข้อมูล

(2) ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ เพื่อเป็นการปฏิบัติ ตามกฎหมายที่ผู้ควบคุมข้อมูลต้องปฏิบัติตาม เว้นแต่ผู้ใช้จะพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิ์ดีกว่าผู้ควบคุมข้อมูล

(3) ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด แบบตรง

(4) ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษา วิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ โดยที่การศึกษาวิจัยนั้นไม่จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อก่อให้เกิด ประโยชน์สาธารณะ

(ฉ) ผู้ใช้สามารถร้องขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ในกรณีดังต่อไปนี้

(1) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลไม่จำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอีกต่อไป

(2) เมื่อผู้ใช้ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ควบคุมข้อมูลไม่มีอำนาจอื่นตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้อีกต่อไป ผู้ควบคุมข้อมูลต้องลบข้อมูลส่วนบุคคลนั้นออก

(3) เมื่อผู้ใช้คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนั้น โดยชอบด้วยกฎหมาย

(4) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

(ซ) เมื่อผู้ใช้พบเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลของตนผิด ล้าหลัง ไม่ชัดเจน ผู้ใช้มีสิทธิร้องขอให้ผู้ควบคุมข้อมูล แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลนั้นให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้

(ฌ) ผู้ใช้สามารถร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กรณีที่เกี่ยวกับการกระทำฝ่าฝืนหรือการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ควบคุมข้อมูล

ข้อ 8 การรักษาความมั่นคงปลอดภัย

ผู้ควบคุมข้อมูลจะดำเนินการตามนโยบายนี้ โดยใช้มาตรการรักษาความมั่นคง ปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย มาตรการเหล่านี้รวมถึง:

- กำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล (Access Right) ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง

- ใช้การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) ในการส่งผ่านข้อมูล

- รักษาความปลอดภัยด้วย Firewalls และ Internet Protocol Security (IPsec)

ข้อ 9 การแก้ไขปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ควบคุมข้อมูลมีระบบและมาตรการตรวจสอบ ดังต่อไปนี้

(ก) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

(ข) ลบข้อมูลส่วนบุคคลที่เกินระยะเวลาเก็บรวบรวมที่ผู้ใช้ได้ให้ความยินยอมไว้

(ค) ลบข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ผู้ใช้ได้ให้ความยินยอมไว้

ข้อ 10 การเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ใช้ยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้ได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม ล่วงหน้า การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวจะต้องจำเป็นและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ที่ระบุไว้เท่านั้น กรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้โดยไม่ต้อง ขอความยินยอมล่วงหน้า มีดังต่อไปนี้

(ก) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ ประโยชน์สาธารณะ การศึกษาวิจัยหรือสถิติ ผู้ควบคุมข้อมูลจะจัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสม เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้

(ข) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลใดๆ

(ค) การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้มีความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตาม สัญญาที่ผู้ใช้เป็นคู่สัญญา หรือเพื่อดำเนินการตามคำขอของผู้ใช้ก่อนเข้าทำสัญญา

(ง) การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนี้มีความจำเป็น เพื่อให้ผู้ควบคุมข้อมูลสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจ สาธารณะ หรือหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากกฎหมาย

(จ) การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนี้มีความจำเป็น เพื่อประโยชน์อันชอบธรรมของผู้ควบคุมข้อมูล หรือบุคคลที่สาม ซึ่งประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญเหนือกว่าสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน หรือผลประโยชน์ ที่ชอบด้วย กฎหมายของเจ้าของข้อมูล

(ฉ) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูล ผู้ควบคุมข้อมูลจะบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการ เก็บรวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของผู้ใช้งานตามวรรคก่อนหน้าไว้

ข้อ 11 การเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data)

ผู้ใช้งานรับทราบและตกลงว่า นอกเหนือจากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่ผู้ใช้งานได้ให้ความยินยอมไว้ ผู้ควบคุมข้อมูลอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) ของผู้ใช้งานโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งานก่อนล่วงหน้า ทั้งนี้ เท่าที่จำเป็นและตราบเท่าที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์และในกรณีดังต่อไปนี้เท่านั้น

(ก) ผู้ควบคุมข้อมูลอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานโดยไม่ต้องได้รับความ ยินยอม เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของผู้ใช้งาน แม้ว่าผู้ใช้งานจะไม่สามารถ ให้ความยินยอมได้ก็ตาม

(ข) เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลนั้น

(ค) เป็นการจําเป็นเพื่อการก่อตั้ง การปฏิบัติตาม การใช้หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

(ง) เป็นการจําเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์อันเกี่ยวกับ

(1) เวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์การประเมินความสามารถในการทํางานของลูกจ้าง การวินิจฉัย โรคทางการแพทย์ การให้บริการด้านสุขภาพหรือด้านสังคม การรักษาทางการแพทย์ การจัดการด้านสุขภาพ หรือระบบและการให้บริการด้านสังคมสงเคราะห์

(2) ประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายหรือโรค ระบาดที่อาจติดต่อหรือแพร่เข้ามาในราชอาณาจักร หรือการควบคุมมาตรฐานหรือคุณภาพของยา เวชภัณฑ์ หรือเครื่องมือแพทย์ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมและเจาะจงเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ใช้งาน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยเฉพาะการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามหน้าที่หรือตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

(3) การคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย การคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถหรือการคุ้มครองทางสังคม ซึ่งการเก็บรวมรวม ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานนั้นเป็นสิ่งที่จําเป็นในการปฏิบัติตามสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ควบคุมข้อมูลหรือผู้ใช้ งานเจ้าของข้อมูล โดยได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของผู้ใช้งาน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

(4) การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ หรือประโยชน์สาธารณะอื่น ทั้งนี้ ด้วยการเก็บ รวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพียงเท่าที่จําเป็นและได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้น ฐานและประโยชน์ของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ ประกาศกำหนด

(5) ประโยชน์สาธารณะที่สําคัญ โดยได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐาน และประโยชน์ของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

ทั้งนี้ ผู้ควบคุมข้อมูลจะบันทึกการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานตามวรรคก่อนหน้าไว้เป็น สําคัญ
ข้อ 12 การใช้งานเว็บไซต์ของบุคคลซึ่งอยู่ในความปกครอง อนุบาล หรือพิทักษ์ของผู้ใช้งาน

ผู้ใช้งานรับรองว่าจะตนไม่ใช่และจะไม่ยินยอมให้บุคคลซึ่งมีลักษณะ ดังต่อไปนี้ เยี่ยมชม ใช้งาน หรือเป็นสมาชิกของเว็บไซต์

(ก) คนไร้ความสามารถซึ่งอยู่ในความอนุบาลของผู้ใช้งาน

(ข) คนเสมือนไร้ความสามารถซึ่งอยู่ในความพิทักษ์ของผู้ใช้งาน

ในกรณีที่ผู้ใช้งานยินยอมให้บุคคลลักษณะดังกล่าวข้างต้นเยี่ยมชม ใช้งาน หรือเป็นสมาชิกของเว็บไซต์ ผู้ใช้งานตกลง ให้ถือว่าผู้ใช้งานได้ใช้อํานาจปกครอง อนุบาล หรือพิทักษ์ของบุคคลดังกล่าว แล้วแต่กรณี ในการตกลงและให้ความ ยินยอมตามนโยบายฉบับนี้ทั้งสิ้นเพื่อและในนามของบุคคลดังกล่าวด้วย

ข้อ 13 การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

ผู้ควบคุมข้อมูลอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานไปยังต่างประเทศได้ แต่ต้องเป็นไปตามกรณี ดังต่อไปนี้เท่านั้น

(ก) ประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคล ต้องมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลที่เพียงพอ ตามที่กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไว้

(ข) ได้รับการยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว ซึ่งผู้ใช้งานได้รับแจ้งและยอมรับถึงมาตรฐานการ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอของประเทศปลายทางหรือองค์กรระหว่างประเทศที่รับข้อมูลไว้ด้วยตนเองแล้ว

(ค) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย

(ง) เป็นเรื่องจําเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญานั้น หรือในการดําเนินการตามคําขอของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนที่จะทําสัญญาดังกล่าว

(จ) เป็นการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างผู้ควบคุมข้อมูลกับบุคคลอื่นโดยมีเป้าหมายเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งาน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ

(ฉ) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือบุคคลใดๆ เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้

(ช) เป็นการจําเป็นเพื่อการดําเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สําคัญ

ข้อ 14 การแจ้งเตือนเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

เมื่อผู้ควบคุมข้อมูลทราบถึงการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะมีการละเมิดโดยบุคคลใด ผู้ควบคุมข้อมูลจะดําเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้

(ก) ในกรณีที่มีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลใดๆ ผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งเหตุการ ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชักช้า ภายใน 72 (เจ็ดสิบสอง) ชั่วโมงนับตั้งแต่ทราบข้อมูลเหตุการณ์

(ข) ในกรณีที่มีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบอย่างสูงต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลใดๆ ผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวและแนวทางการเยียวยาต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และต่อผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยไม่ชักช้า ในกรณีที่สามารถกระทำได้ ภายใน 72 (เจ็ดสิบสอง) ชั่วโมงนับตั้งแต่ทราบข้อมูลเหตุการณ์

ข้อ 15 การร้องเรียนและการแจ้งปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ใช้งานอาจร้องเรียนและรายงานปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล อันรวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียง การขอให้ผู้ควบคุมข้อมูล แก้ไขปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันและ/หรือ ให้ถูกต้อง การคัดค้านการเก็บรวบรวมข้อมูล หรือระงับการใช้ข้อมูลได้ที่ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
[email protected]

ข้อ 16 การบันทึกรายการสําคัญ

เว้นแต่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะกำหนดให้ผู้ควบคุมข้อมูลมีสิทธิ์ในสิ่งอื่น ๆ ผู้ควบคุมข้อมูลจะต้องบันทึกรายการสำคัญเกี่ยวกับการเก็บรักษา การใช้งาน หรือการเปิดเผยข้อมูลในรูปแบบหนังสือหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการตรวจสอบ โดยสามารถเข้าถึงได้โดยผู้ใช้งานข้อมูลหรือหน่วยงานของรัฐ รวมถึงรายการต่อไปนี้

(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม

(ข) วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท

(ค) ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูล

(ง) ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

(จ) สิทธิและวิธีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งเงื่อนไขเกี่ยวกับบุคคลที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและ เงื่อนไขในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

(ฉ) การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูล

(ช) การปฏิเสธค่าขอและการคัดค้านต่างๆ

(ช) รายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 17 การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย

ผู้ควบคุมข้อมูลสามารถแก้ไขและเปลี่ยนแปลงข้อความในนโยบายฉบับนี้ได้ตลอดเวลาโดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ และทั้งหมดหรือบางส่วน ผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ผู้ใช้สามารถพิจารณาและยอมรับด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่น ๆ และหากผู้ใช้ได้ดำเนินการเพื่อยอมรับนั้นแล้ว จะถือว่านโยบายที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายฉบับนี้ด้วย

ข้อ 18 ความสัมพันธ์ของคู่สัญญา

โดยที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายเข้าใจและทราบดีว่า การเข้าทํานโยบายฉบับนี้ไม่ทําให้คู่สัญญาและพนักงานของคู่สัญญา แต่ละฝ่ายมีความสัมพันธ์ในฐานะเป็นลูกจ้างตามกฎหมายแรงงาน หรือเป็นหุ้นส่วนกันตามกฎหมายหุ้นส่วนและบริษัทแต่อย่างใด

ข้อ 19 การโอนสิทธิ

เว้นแต่จะได้กําหนดไว้เป็นอย่างอื่นอย่างชัดแจ้งในนโยบายฉบับนี้ คู่สัญญาตกลงจะไม่โอนสิทธิ หน้าที่ และ/หรือความรับผิดตามนโยบายฉบับนี้ให้แก่บุคคลใดโดยมิได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร จากคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเป็นการล่วงหน้าก่อน

ข้อ 20 การสละสิทธิ

การที่ผู้ควบคุมข้อมูลไม่ใช้สิทธิหรือใช้สิทธิล่าช้าในเรื่องหนึ่งเรื่องใดหรือคราวหนึ่งคราวใดก็ดี มิให้ถือว่าผู้ควบคุมข้อมูลสละสิทธิในเรื่องดังกล่าว และการที่ผู้ควบคุมข้อมูลใช้สิทธิแต่เพียงบางส่วนหรือสละสิทธิในเรื่องหนึ่งเรื่องใดหรือคราวหนึ่งคราวใด ก็มิให้ถือว่าเป็นการสละสิทธิในเรื่องอื่นหรือในคราวอื่นด้วย

ข้อ 21 การแยกส่วนของนโยบาย

หากมีข้อความหรือข้อตกลงใดในนโยบายฉบับนี้ที่ตกเป็นโมฆะ ไม่สมบูรณ์ หรือไม่มีผลบังคับใช้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม คู่สัญญาตกลงให้ข้อความและข้อตกลงอื่นๆ ในนโยบายฉบับนี้ยังคงมีผลสมบูรณ์และผูกพันคู่สัญญาอยู่เสมือนหนึ่งว่าไม่มีส่วนที่เป็นโมฆะ ไม่สมบูรณ์ หรือไม่มีผลบังคับใช้นั้นอยู่ในนโยบายฉบับนี้

ข้อ 22 กฎหมายที่ใช้บังคับ

นโยบายฉบับนี้ให้อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายของประเทศไทย

ข้อ 23 การระงับข้อพิพาท

หากมีข้อโต้เถียง ข้อขัดแย้งใดๆ เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากนโยบายฉบับนี้ หากคู่สัญญาไม่สามารถตกลงกันได้ คู่สัญญาตกลงจะนำข้อพิพาทดังกล่าวขึ้นฟ้องต่อศาลในประเทศไทย


อัปเดต 3 เมษายน 2567

บริษัท ซีบีซอฟท์ จำกัด